แนะนำว่าควรลองอ่านดู 17 ข้อคิด ของคนจนและคนรวย คุณคิดแบบไหน อยู่ฝั่งไหน ?
1. อย่ารอปาฏิหาริย์ คนรวยสร้างโชคชะตา เอาชนะโชคชะตาปัญหาและอุปสรรค์ด้วยตนเอง ในขณะที่คนจนเอาแต่สวดมนต์อ้อนวอนขอร้องพระเจ้า
2. ทำตามความฝันของคุณ อย่าเป็นเหมือนคนธรรมดาหรือคนจนที่เอาแต่นั่งคิด คนรวยจะวิ่งเข้าหาชัยชนะ อย่ามัวแต่รอรอรอ แล้วก็รออยู่แต่ในพื้นที่ความสบายใจของคุณ คนรวยจะวิ่งเข้าหาความท้าทายอยู่ตลอดเวลา ลงมือทำทันที เพราะการลงมือทำคือสิ่งที่จะทำให้คุณมีชีวิตแตกต่างจากคนจน
3. มุ่งมั่นสู่เป้าหมาย คนรวยมุ่งมั่นและมีพันธะสัญญากัเป้าหมายของเขาในทุกๆ วัน ขณะที่คนจนเอาแต่นั่งคิด นั่งฝันถึงสิ่งที่ต้องการ
4. ฝันใหญ่ !! ถ้าพูดถึงความฝันของคุณแล้วคุณไม่มีความตื่นเต้นใดๆ กับมันเลย ไม่มีความตื่นเต้น หรือเป็นแรงขับเคลื่อนให้คุณเลย แสดงว่ามันไม่ใหญ่พอ คนรวยมักจะมีความฝันที่ใหญ่ และเป็นฝันเพื่อคนอื่นๆ นั่นเป็นเหตุผลให้เขาเองมีแรงขับเคลื่อนอยากบรรลุความฝันนั้น ในขณะเดียวกันแม้ความฝันจะใหญ่ แต่เขาก็มีการวางแผนงานทำทีละเล็กละน้อยจนสำเร็จในที่สุด แต่คนจนนั้นมีความฝันแค่เล็กน้อยๆ ไม่มากพอที่จะขับเคลื่อนตนเอง แถมยังไม่มีการวางแผนอะไรเลย
5. อย่าหาข้อแก้ตัว! แม่ฉันพูดเสมอว่า ชีวิตก็เหมือนกล่องช็อคโกแลต คุณไม่รู้หรอกว่าข้างในกล่องเปิดออกแล้วแล้วจะมีอะไร คนจนนั้นมองแต่ปัญหา หากจะให้เริ่มทำอะไรพวกเขาจะมองหาแต่ปัญหาและอุปสรรค์ที่จะได้เจอ ในขณะที่คนรวยนั้นมองเห็นแต่ผลลัพธ์ที่สวยงามถึงแม้ว่าจะเกิดปัญหาก็ตาม
6. จงถ่อมตัวกับทุกคน เราไม่รู้หรอกว่าคนที่เราเจออยู่นั้น วันข้างหน้าเขาจะเป็นใคร เป็นนายจ้างเรา เป็นลูกจ้างเรา เป็นคนที่สำคัญกับชีวิตเรา เราไม่รู้เลยจริงๆ ฉะนั้นเราต้องถ่อมตัวกับทุกๆ คน คนจนนั้นมักจะมองคนรวยเป็นคนที่โลภมาก บ้าวัตถุ ยิ่งทนง พูดง่ายๆ ว่ารังเกียจคนรวย ส่งผลให้ตนเองนั้นไม่รวยสักที ขณะที่คนรวยนั้นเลือกมองหาไอดอลของตนเอง และรับฟังแนวคิดของเขาและเดิมตามเส้นทางของคนรวย
7. คอนเน็คชั่นเป็นเรื่องสำคัญ หมั่นเข้าหาคนที่เก่งกว่าตนเองเสมอ ผูกมิตรกับคนที่จะช่วยพัฒนาชีวิตของเราในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะการเรียน การงาน การเงิน ไม่คบหากับคนที่เอาแต่คิดลบ คิดว่าสิ่งต่างๆ นั้นยากเย็น ทำไปก็ไม่สำเร็จหรอก หากเราอยู่ในสถานที่ที่เราเก่งที่สุด นั่นแปลว่าเรากำลังอยู่ผิดที่ จงหา connection ใหม่ๆ หาคนที่จะช่วยให้เราเดินถึงเป้าหมายชีวิต
8. จงมั่นใจในตนเอง! ไม่ว่าคุณจะคิดว่าคุณทำได้ หรือ คุณทำไม่ได้ คุณก็คิดถูกทั้ง 2 อย่างนั่นแหละ ฉะนั้นจงเชื่อเสมอว่าคุณสามารถทำมันได้ และเป็นมันได้เพราะคนรวยเชื่ออย่างนั้น ขณะที่คนจนนั้นเชื่อตรงข้าม เชื่อว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก
9. อย่ายอมแพ้! สิ่งเดียวที่ขวางกั้นอยู่ระหว่างคุณและเป้าหมายของคุณ ก็คือ คำพูดของตัวคุณเองที่บอกว่า ฉันทำไม่ได้หรอก ! เพียงแค่ครั้งเดียวก็มากพอที่จะทำให้คุณล้มเลิกจากสิ่งที่ตั้ง และกลับไปเป็นคนจนๆ เหมือนเดิม แต่คนรวยนั้นพวกเขาจะให้กำลังใจตัวเอง แม้เจออุปสรรค์ก็จะหาทางก้าวข้าม
10. เตรียมพร้อมสำหรับรับความเสี่ยง ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะต้องมีความเสี่ยง คนรวยนั้นเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับความเสี่ยง และบางทีก็พบว่าความเสี่ยงนั้นเป็นความเสี่ยงที่ทำให้เกิดรายได้ หรือความสำเร็จ ขณะที่คนจนแค่พูดว่าความเสี่ยงพวกเขาก็ถอยหนีแล้ว
11. เชื่อในความฝันของคุณเอง จงเชื่อในความฝันของคุณและลงมือสร้างความฝันนั้นให้สำเร็จ เพราะถ้าคุณไม่สร้างความฝันตัวเอง จะมีคนจ้างคุณไปสร้างความฝันของเขา
12. มีความทะเยอทะยาน และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าถึงความสำเร็จที่คุณต้องการ คนจนนั้นมักจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เช่นทำงานที่ตนรัก แต่รายได้อาจไม่ดีนัก ในขณะที่คนรวยนั้นเลือกทั้ง 2 อย่างพร้อมกัน ทำงานที่รักด้วย และสร้างความมั่งคั่งจากงานที่ทำนั้นด้วย
13. ใช้ชีวิตแตกต่างไปจากผู้อื่นสักสองสามปี อดทนสร้างความสำเร็จของคุณ เพื่อจะได้มีชีวิตที่เหลืออยู่อย่างที่ผู้อื่นได้แต่ฝันถึง
14. เรียนรู้ที่จะจัดการเงินของคุณ ดังในภาพแสดงให้เห็นว่ามีสัตว์ดุร้ายที่อยู่ในตัวคุณที่คอยจัดการเรื่องการเงินของคุณ คุณจงเรียนรู้วิธีควบคุมมัน ซึ่งทักษะบริหารจัดการเงิน ไม่ได้เป็นทักษะที่มีสอนอยู่ในโรงเรียนของรัฐบาลเท่าไหร่
15. เรียนรู้ให้เงินทำงานแทน คนทั่วไปติดอยู่ในสนามแข่งหนู หากต้องการเงินมากๆ ก็ต้องทำงานหนักขึ้น หนักขึ้นและเมื่อมีเงินมากแล้ว ค่าใช้จ่ายที่มากก็จะตามมา ทำให้คุณก็ต้องทำงานหนักขึ้นไปอีก ฉะนั้นจงเรียนรู้วิธีที่จะให้เงินทำงานแทน เพื่อที่คุณจะได้หลุดออกจากสนามแข่งหนู
16. พร้อมจะรับมือกับปัญหา ไม่มีทางลัด หรือทางเรียบสู่ความสำเร็จ ทุกๆ สิ่งที่คุณทำอยู่มันจะมีปัญหาทั้งนั้น คุณต้องตั้งหน้าตั้งตารอและเมื่อเกิดขึ้นก็ต้องหาทางแก้ไขมัน
17. จงหิวและโง่อยู่เสมอ เป็นประโยคที่ทุกท่านอาจรู้จักดี เพราะคนที่พูดไว้ก็คือ Steve Jobs แปลว่า จงทำตัวเหมือนคนโง่ๆ น้ำครึ่งแล้ว พร้อมที่รับมือและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ
อ้างอิงจาก www.financialfreedomng.com