ไม่เคยรู้มาก่อน เมล็ดมะละกอ ของดีที่เรามองข้าม บำรุงตับ ป้องกันไตเสื่อม และประโยชน์อีกมาก!!
มะละกอเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีสารอาหารสูง ไม่ใช่เพียงแค่ผล เมล็ดของมันมีประสิทธิภาพสูงมากเช่นกัน เวลาที่ทุกคนทานมะละกอนั้นก็มักจะชอบเขี่ยเมล็ดของมันทิ้ง น่าเสียดายจริงๆที่เมล็ดของมันมีประโยชน์มากมาย เมล็ดอุดมไปด้วยสารฟีโนลิคและฟลาเวอนอยด์ โปรตีน แคลเซี่ยม แมกนีเซียมและฟอสโฟรัส ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรียข่าว วันนี้เราก็เลยจะพาไปดูถึงประโยชน์ของมันกัน
ประโยชน์ของเมล็ดมะละกอ
1. ป้องกันมะเร็ง เพราะเมล็ดมะละกอนั้นอุดมไปด้วยกรด Palmitic & Oleic ที่เชื่อกันว่า สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้
2. ตำราแพทย์แผนจีนและญี่ปุ่น ใช้เมล็ดมะละกอเป็นยาขับของเสียออกจากตับและบำรุงตับให้แข็งแรง
3. ป้องกันไตเสื่อม เมล็ดมะละกออุดมไปด้วย Flavonoids ที่สามารถป้องกันเชื้อโรคได้
4. การบริโภคเมล็ดมะละกอเป็นประจำ จะช่วยถ่ายพยาธิในลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ควรทานในปริมาณเท่าไร
เนื่องจากเมล็ดมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย ไม่ควรบริโภคในปริมาณมากจะทำให้ท้องร่วงได้ ควรทานเพียง ช้อนโต๊ะต่อวัน ทางที่ดีควรเริ่มต้นจากการทานในปริมาณน้อยและค่อยๆเพิ่มขึ้นจนถึง ช้อนโต๊ะ และถ้าหากใครที่วางแผนตั้งครรภ์ควรหยุดทานเมล็ดมะละกอ เนื่องจากเมล็ดมีคุณสมบัติเป็นยาคุมกำเนิดโดยธรรมชาติ หากผู้ใดแพ้น้ำยางก็ไม่ควรทานทั้งเมล็ดและเนื้อผลไม้เช่นเดียวกัน
วิธีทานเมล็ดมะละกอ
– เลือกมะละกอลูกเล็ก การเลือกมะละกอลูกเล็กนั้น เนื่องจากว่าเมล็ดของมันมักจะมีรสชาติค่อนข้างดีกว่า เมล็ดของมะละกอลูกใหญ่ๆซึ่งจะมีรสชาติที่ขมมาก และเมื่อคุณคุ้นเคยกับรสชาติของมันแล้ว ก็ค่อยไปเลือกมะละกอลูกใหญ่ก็ได้
– คุณสามารถเคี้ยวเมล็ดของมะละกอได้โดยตรง เมล็ดของมะละกอนั้นสามารถทานได้ทั้งหมด ในสัปดาห์แรกๆนั้นขอแนะนำให้ทานวันละหนึ่งถึงสองเมล็ดก็พอ เพราะถ้าคุณทานเยอะเกินไป มันอาจจะทำให้ร่างกายและระบบทางเดินอาหารของคุณผิดปกติก็ได้
– ในการทานครั้งแรกนั้น รสชาติอาจจะทั้งขมและคล้ายพริกไทผสมมัสตาดซึ่งอาจจะทำให้คุณ รู้สึกอึดอัด และถ้าคุณทานเร็วเกินไปหรือมากเกินไปรสชาติที่ค่อนข้างแย่นั้นอาจทำให้คุณไม่อยากจะทานมันอีกเลย และถึงแม้ว่าเมล็ดของมะละกอจะทานได้ก็ตาม แต่ถ้ากระเพาะอาหาร ของเรายังไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่ทานเข้าไป มันอาจจะทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อยก็ได้ ดังนั้นจึง ต้องค่อยๆทานทีละนิดเพื่อให้ร่างกายคุ้นเคย หลังจากที่รับประทานเมล็ดของมะละกอได้สองสัปดาห์แล้ว ก็ให้เพิ่มปริมาณให้มากขึ้นเป็น1/4 ช้อนโต๊ะแล้วค่อยๆเพิ่มเป็น1/2 ช้อนโต๊ะ จนถึง 1 ช้อนโต๊ะในที่สุด
– นอกจากนี้คุณยังสามารถนำเมล็ดมะละกอมาทานคู่กับน้ำผึ้งได้ด้วย ถ้าหากคุณยังรับรสขม ของเมล็ดมะละกอไม่ได้ คุณก็สามารถนำเมล็ดมะละกอมาผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะแล้วค่อย ทานก็ได้การรับประทานเมล็ดมะละกอผสมน้ำผึ้งนั้น ถือว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการถ่ายพยาธิ ดังนั้นหากนำเมล็ดมะละกอผสมน้ำผึ้งแล้วทานก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน
– คุณสามารถนำเมล็ดมะละกอที่สะอาดและแห้งแล้วมาคั่วบดให้เป็นผง เพื่อให้ได้ประสิทธิผลที่ดีนั้น ควรจะเลือกเมล็ดมะละกอสดๆมาตากให้แห้งแล้วจึงนำมาคั่วบด เป็นผง เพราะถ้าเป็นเมล็ดมะละกอที่เก็บไว้นานแล้วจะไม่ค่อยดีนัก
– ลองใช้เมล็ดมะละกอมาปรุงอาหาร ก่อนที่จะทำอาหารคุณสามารถนำเมล็ดมะละกอที่บดแล้วมา หมักให้กับสเต็กไก่หรือเนื้อหมูก็ได้เช่นกัน เพื่อทำให้เนื้อเหล่านั้นนุ่มขึ้น เช่น นำเมล็ดมะละกอ1/2 ช้อนโต๊ะมาคั่วบดเป็นผง แล้วนำมาหมักกับสเต็กที่เตรียมไว้ ทิ้งไว้หนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็นำสเต็กไปทอดด้วยน้ำมันมะกอกในกระทะ เมล็ดมะละกอที่อุดมไปด้วยปาเปนนั้นจะช่วยทำให้เนื้อนุ่มขึ้น และหลังจากที่ทานเข้าไปแล้ว ยังสามารถช่วยให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารได้ดีขึ้นด้วย
– เมล็ดมะละกอผสมน้ำสลัด วิธีการรับประทานเมล็ดมะละกออีกอย่างหนึ่งก็คือ นำผงของมันมา ผสมกับน้ำสลัด แล้วทานคู่กับสลัด
ขอบคุณข้อมุลดีดีจาก : kinaroi.com, news.thaiza.com/qualitylife/366559/
เรียบเรียงข้อมูลโดย : samunpraibann